- June 27, 2019
- Posted by: Konica Minolta
- Category:
bizhub i-SERIES
เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน ที่ทรงประสิทธิภาพและปลอดภัยสูงสุด
ทำไมจึงต้องติดตั้งซอฟต์แวร์แอนติไวรัส
ในเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน?
ด้วยความก้าวล้ำของเทคโนโลยีด้านการติดต่อสื่อสารในปัจจุบัน ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าทุกธุรกิจจำเป็นต้องเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต หรือ Internet of Thing (IoT) เพื่อรับ-ส่งข้อมูล เป็นผลให้สไตล์การทำงานถูกปรับเปลี่ยนให้มีความเป็นดิจิตอลมากขึ้น เพียงแค่มีการเชื่อมต่อของอินเทอร์เน็ต ผู้ใช้งานสามารถสั่งพิมพ์งานได้จากทุกที่ทุกเวลา หรือแม้แต่สั่งสแกนเอกสารขึ้นไปเก็บไว้บนคลาวด์ภายในเสี้ยววินาที
อิสรภาพในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต สร้างช่องโหว่ที่อ่อนไหวต่อการคุกคามของไวรัส และ cyber-attack ข้อมูลทางธุรกิจอันมีค่าของคุณกำลังตกอยู่ในอันตราย โดยเป็นเรื่องที่ง่ายมากสำหรับไวรัสในปัจจุบัน ที่จะแฝงตัวเข้าสู่เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันขณะรับ-ส่งข้อมูล ผู้ไม่ประสงค์ดีสามารถลักลอบดูข้อมูลสำคัญทางธุรกิจ ก่อกวนการทำงาน และรวมถึงทำลายข้อมูลทั้งหมดขององค์กร ด้วยเหตุนี้มาตรฐานความปลอดภัยทางข้อมูลอย่าง ซอฟต์แวร์แอนติไวรัสจึงเป็นสิ่งจำเป็น
โคนิก้า มินอลต้า “แบรนด์แรกและแบรนด์เดียว”
ที่ติดตั้งซอฟต์แวร์แอนติไวรัส BitDefender
ไว้ภายในเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน
เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันแห่งอนาคต รุ่นใหม่ล่าสุด bizhub i-SERIES จาก โคนิก้า มินอลต้า ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดให้กับข้อมูลและเอกสารสำคัญในธุรกิจของคุณ ด้วยซอฟต์แวร์ BitDefender หนึ่งในซอฟต์แวร์แอนติไวรัสที่ได้รับความเชื่อมั่นสูงที่สุดในยุโรป ทำหน้าที่ปกป้องเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันจากการคุกคามของไวรัสโดยสมบูรณ์แบบเรียลไทม์ ทั้งจากการแทรกตัวเข้ามาของไวรัสผ่านการรับข้อมูลการพิมพ์และแฟกซ์ หรือการได้รับไวรัสจากการสแกนเอกสารไปยังอีเมลและคลาวด์ จึงช่วยให้ข้อมูลอันมีค่าของคุณปลอดภัยอยู่เสมอ มอบความอุ่นใจ ไร้ความกังวล เพิ่มเวลาในการทำงานและให้คุณมุ่งเน้นไปกับงานที่สำคัญอื่นๆ
บูรณาการระบบปฎิบัติการที่ทรงพลังที่สุด จาก โคนิก้า มินอลต้า
ภายใต้แนวคิด RETHINK PRODUCTIVITY ที่ต้องการให้เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันเป็นมากกว่าเครื่องพิมพ์และเครื่องถ่ายเอกสารทั่วไป เราจึงได้พัฒนาระบบปฎิบัติการขึ้นใหม่ ที่จะมาได้ปฎิวัติประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันไปอย่างสิ้นเชิง ด้วย CPU Quad Core ความเร็ว 1.6GHz ที่มี RAM สูงถึง 8 GB ทำให้ bizhub i-SERIES ประมวลผลได้อย่างชาญฉลาดยิ่งกว่าจากทั้ง 4 Core และทำงานได้อย่างรวดเร็วเต็มประสิทธิภาพจากหน่วยความจำ (RAM) ที่มากที่สุดในตลาด และจัดเก็บข้อมูลอย่างปลอดภัยด้วยพื้นที่จัดเก็บแบบ Solid-State-Drive (SSD) ขนาด 256 GB ซึ่งอ่านและเขียนข้อมูลได้เสถียรยิ่งขึ้น แข็งแรงทนทาน รองรับแรงสั่นสะเทือนได้มากกว่า เมื่อเทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบดั้งเดิม ช่วยให้ทุกกระบวนการผลิตที่ผ่าน bizhub i-SERIES มีการทำงานที่รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และปลอดภัยสูงสุด
“bizhub i-SERIES ตอบโจทย์การลงทุนทางธุรกิจที่คุ้มค่า เพราะเราได้นำเสนอเทคโนโลยีแห่งอนาคต เพื่อให้คุณได้ใช้ขับเคลื่อนธุรกิจในวันนี้ สัมผัสความแตกต่างของนวัตกรรมความปลอดภัยแบบใหม่ และประสิทธิภาพการทำงานที่ทรงพลัง ที่จะเข้ามาเปลี่ยนสไตล์การทำงานของคุณไปอย่างสิ้นเชิงได้แล้ววันนี้”